บทความประชาสัมพันธ์ - ในขณะที่เทรนด์ความสวยความงามมาแล้วก็ไป แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับวงการแฟชั่นในขณะนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่กว้างไกลไปมากกว่าเทรนด์ มันคือการปฏิวัติที่จะพลิกโฉมธุรกิจนี้ไปตลอดกาล ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัลที่เปลี่ยนรูปแบบการพิมพ์สิ่งทอแบบดั้งเดิมไปจนหมดสิ้น ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในทุกขั้นตอนการออกแบบและผลิตสินค้าต่างๆ  ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าแฟชั่น แต่รวมถึงเครื่องประดับและเฟอร์นิเจอร์ เหลือข้อจำกัดเพียงข้อเดียวเท่านั้น นั่นก็คือจินตนาการของตัวดีไซเนอร์เอง
 
เทคโนโลยีการพิมพ์สิ่งทอด้วยระบบดิจิทัล ช่วยเปิดทางให้แบรนด์สินค้าแฟชั่นสามารถยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ และตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าได้มากขึ้น เมื่อโลกแฟชั่นเปลี่ยนมาใช้การพิมพ์สิ่งทอด้วยระบบดิจิทัล จึงสามารถช่วยลดเวลาในการผลิต  ซึ่งจะทำให้คอลเล็คชั่นล่าสุดจากแคทวอล์คสามารถส่งตรงไปถึงร้านค้าได้เร็วขึ้น สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของการพิมพ์สิ่งทอด้วยระบบดิจิทัลนั่นก็คือ ดีไซเนอร์ยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ตามความชื่นชอบส่วนบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีความเป็นปัจเจกชนสูงขึ้นมาก
 
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตพรินเตอร์สิ่งทอด้วย ระบบดิจิทัลชั้นนำของโลกกล่าวว่า “วิธีการพิมพ์แบบดั้งเดิมนั้นใช้ระบบซิลค์สกรีน ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีต้นทุนสูง  ใช้พื้นที่ในการเตรียมงาน ใช้แรงงาน รวมถึงช่างฝีมือจำนวนมาก  ยิ่งไปกว่านั้นการพิมพ์สำหรับหนึ่งออร์เดอร์ อาจ จะต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ ซึ่งข้อจำกัดต่างๆ ในการผลิตผ้าแบบเดิมเหล่านี้ส่งผลให้การสร้างสรรค์และ ออกแบบลายผ้าของดีไซเนอร์ถูกจำกัดไปด้วย”
 
“แต่ในปัจจุบัน เราพัฒนาการพิมพ์สิ่งทอด้วยระบบดิจิทัลที่มีรูปแบบแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง พรินเตอร์ดิจิทัลสามารถรองรับงานผลิตจำนวนน้อยได้ ทั้งยังพิมพ์ลวดลายและสีสันได้หลากหลายตามความต้องการ มีดีไซเนอร์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่หันมาใช้ภาพดิจิทัลทั้งภาพถ่ายและภาพวาดเป็นต้นฉบับในการออกแบบลวยลายของผ้า ในขณะที่การพิมพ์สิ่งทอแบบซิลค์สกรีนมีข้อจำกัดในเรื่องการใช้สีได้เพียง 6-8 สีต่อชิ้นงาน แต่การพิมพ์สิ่งทอในระบบดิจิทัลนั้นสามารถรองรับจำนวนสีได้ไม่จำกัด รวมถึงดีไซเนอร์ยังสามารถเลือกใช้ผ้าในการพิมพ์ลายได้หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าฝ้ายผสม ผ้าไลครา ผ้าไหม ผ้าไนลอน และวัสดุอื่นๆ อีกมากมาย พรินเตอร์สิ่งทอจึงไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับแบรนด์สินค้าแฟชั่น แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับดีไซเนอร์อีกด้วย ดังนั้นดีไซเนอร์จึงไร้ซึ่งอุปสรรคการขวางกั้นจินตนาการอีกต่อไป”
 
“ปัจจุบัน พรินเตอร์สิ่งทอของเอปสันในรุ่น SureColor F-Series ได้เข้าไปอยู่ในวงการแฟชั่นอย่างเต็มตัว และได้รับการยอมรับจากดีไซเนอร์ชื่อดังในหลายประเทศ การได้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิวัติธุรกิจแฟชั่น ทำให้บริษัทฯ ไม่หยุดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัลในทุกส่วน ทั้งระบบหัวพิมพ์ PrecisionCore ที่มีความแม่นยำสูง สามารถพิมพ์งานได้เร็วและติดต่อกันได้นานโดยไม่ติดขัด หรือหมึกพิมพ์ UltraChrome DG ที่ให้สีสันสวยงาม มีมิติสมจริง” นายยรรยง กล่าว
 
นอกจากแบรนด์สินค้าแฟชั่นทั่วไปแล้ว  ผู้ผลิตสินค้ารายย่อยก็ยังได้ประโยชน์จากโอกาสและความคล่องตัวทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นจากเทคโนโลยีการพิมพ์สิ่งทอด้วยระบบดิจิทัล รวมถึงยังสามารถเพิ่มความหลากหลายให้กับธุรกิจ เนื่องจากพรินเตอร์สิ่งทอใช้ได้กับสินค้าหลายชนิด อาทิ สิ่งทอ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน เป็นต้น   
 
อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงเพราะสามารถสั่งพิมพ์งานตัวอย่างมาให้ลูกค้าตรวจดูให้แน่ใจว่าตรงตามความต้องการก่อนจะสั่งผลิตจริงในล็อตใหญ่ ผู้ผลิตยังสามารถผลิตสินค้า made-to-order ในแบบและจำนวนที่ลูกค้าเป็นผู้เลือกเองได้ ทั้งยังสามารถส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพรินเตอร์สิ่งทอจึงเป็นมากกว่าเทรนด์และเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ แต่กลายมาเป็นโซลูชั่นทางธุรกิจ ที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบและโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงยังสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์สินค้า และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าไปพร้อมกัน